ขออัพรูปห้องวิลล่าและห้องแบบตะวันออกผสมผสานตะวันตกที่เพิ่งถ่ายเมื่อวันก่อนให้ดูกันค่ะ!
เราสามารถที่จะจ้องมองวิวของทะเลเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่ต่างจากปกติจากห้องของเราได้ และที่ห้องก็มีอ่างแช่น้ำร้อนแบบกึ่งกลางแจ้งให้ด้วย
สามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซนได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น ตอนนี้ดอกrape blossomsกำลังบานสะพรั่งเต็มที่พอดีเลยค่ะ
อย่าลืมไปชมทุ่งดอกrape blossomsกันด้วยนะคะ
ไปเที่ยวออนเซนแบบ2วัน1คืนที่เมืองKamogowaจังหวัดChibaจากTokyoกันค่ะ! วันนี้จะไปเมืองKamogowaจังหวัดChibaค่ะ เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมเนื่องมาจากมีอากาศที่อบอุ่นนั่นเอง และไปได้หลายวิธีด้วยค่ะ
คราวนี้จะไปด้วยวิธีนี้ค่ะ ขึ้นรถบัสจากHamamatsucho「สายKamogawa•Kominato Onsen」ค่าโดยสารขาไป 1000 เยน เราจะมาจองตั๋วไปเรียวกังกันค่ะ
รถบัสของเราเบอร์4ค่ะ ออกเวลา10:00น. ระวังอย่าให้ตกรถเด็ดขาดนะคะเพราะมีแค่วันละเที่ยวเท่านั้นค่ะ
ไปขึ้นรถกันเล๊ย! ค่าโดยสารไปจ่ายที่ที่พักที่เราจองไว้ได้เลยค่ะ
ภายในรถนั้นกว้างขวาง สะอาดและสะดวกสบายมากๆค่ะ
หลังจากออกเดินทางมาได้ประมาณ40นาที ก็จะถึงจุดแวะพัก「Umihotaru」ที่อยู่บนทะเล จะให้พักและเข้าห้องน้ำที่นี่สักพักค่ะ
และแล้วก็ถึง「Uo port」ซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายประมาณเที่ยงกว่าๆ และต้องเดินจากจุดนี้ไปที่พักอีกประมาณ 5 นาทีค่ะ
ระหว่างทาง จะมีออนเซนเท้าให้แช่เท้าได้ฟรีๆชื่อ「Tanjoji Ashiyu」ด้วยนะ
หน้าตาแบบนี้ค่ะ
และแล้วก็ถึงที่พักของเราคืนนี้ 「Sansui」 จะแบ่งเป็นอาคารหลักและอาคารย่อย เราจองอาคารย่อยไว้ค่ะ
พอเช็คอินเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งดื่มชาไปพลางชมวิวท่าเรือเพื่อรอให้ทางเรียวกังเตรียมที่พักให้เรียบร้อยกันก่อนค่ะ
และนี่ก็คือห้องพักของเราคืนนี้ค่ะ
เป็นห้องนอนสไตล์โมเดิร์นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นดีจัง
เราสามารถชมวิวทะเลได้จากห้องญี่ปุ่น และมีระเบียงให้ด้วย
บนโต๊ะจะมีกล่องแดงๆแบบนี้วางอยู่ เขียนไว้ว่า「ขนมญี่ปุ่นประจำวันจากโรงงานขนมท้องถิ่นKamata」
พอเปิดดูข้างในก็เจอกับขนมญี่ปุ่นน่ารักๆ เหมือนจะเป็นส้มยูซุนะคะ คราวที่แล้วจำได้ว่าเป็นรูปใบไม้เปลี่ยนสี รู้สึกได้ถึงการต้อนรับที่เอาใจใส่ของที่นี่เลย
ทานเลยละกัน แน่นอนว่ามีชาญี่ปุ่นด้วย
มีเครื่องทำกาแฟให้ด้วยนะคะ สามารถชงกาแฟอร่อยๆเองได้ง่ายๆด้วยแหละ ปลื้มจัง
ที่ห้องมียูกาตะให้ค่ะ
มีทั้งชุดและเสื้อคลุมสวมทับเตรียมไว้ให้ด้วย
ที่ห้องอาบน้ำก็มีอุปกรณ์อาบน้ำให้อย่างเต็มที่ มีทั้งหมวกอาบน้ำและผ้าถูตัวให้ด้วย
อ่างอาบน้ำในห้องค่ะ สุดยอดไปเลย
ในอาคารก็มีห้องอาบน้ำใหญ่ให้ด้วยนะคะ นำอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำใส่ในตะกร้านี้และไปใช้บริการได้ค่ะ
พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ที่ระเบียงตอนนี้บรรยากาศดีสุดๆค่ะ
เริ่มหนาวๆแล้ว ขอใช้ผ้าห่มนี้ละกัน ที่นี่เขาใส่ใจจริงๆนะ
ในอาคารก็มีออนเซนแช่เท้าด้วยนะคะ
นั่งแวะพักชิลๆที่นี่ก่อน มีเครื่องนวดเท้าด้วย
และก็ถึงเวลาทานอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในความเพลิดเพลินที่จะได้รับจากการมาพักที่เรียวกังเท่านั้น เนื่องจากอาหารที่เรียวกังจะเป็นอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบตามท้องถิ่นนั้นๆเท่านั้นค่ะ
เซ็ตรวมปลาดิบนอกจากจะมีกุ้งล็อบสเตอร์และหอยเป๋าฮื้อแล้ว ยังมีวัตถุดิบตามฤดูกาลอื่นๆจัดเต็มมาอีกเพียบเลย นี่สำหรับ1คนนะ! ต้องที่Chibaที่เป็นจังหวัดที่รอบล้อมด้วยทะเลเท่านั้นถึงจะทำแบบนี้ได้!
เครื่องดื่มก็เป็นเหล้าญี่ปุ่น(Nihonshu)ของจังหวัดChibaเอง อย่าลืมเพลิดเพลินไปกับเหล้าที่เข้ากันกับวัตถุดิบจากท้องถิ่นให้ได้เลยนะคะ
เข้ากันได้อย่างสุดยอด! ตอนนี้เหล้าญี่ปุ่นกำลังมาแรงนะคะ อย่างไรก็ใช้โอกาสนี้ลองดื่มกันดูนะคะ
พอรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้วกลับมาที่ห้อง ทางเรียวกังก็ได้เตรียมชาสมุนไพรต้นตำรับของSansuiไว้ให้แล้ว เป็นชาสมุนไพรที่ดื่มง่ายมากๆ สามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วยค่ะ
ตอนเช้า ตื่นแต่เช้าแล้วออกไปเดินเล่นที่วัดTanjojiข้างๆมาค่ะ โชคไม่ดีที่ฝนตก แต่ความเงียบที่ห่างไกลจากเสียงอึกทึกครึกโครมนี้ก็ทำให้จิตใจรู้สึกสงบดีค่ะ
หลังจากทำธุระในตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีการเทศนาธรรมในช่วง6โมง20นาทีค่ะ
รูปปั้นของหลวงพ่อไดโชนินที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารนั้นได้รับการบริจาคมาจากพระสนมขององค์จักรพรรดิ์ในสมัยเมจิ
เป็นสถานที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ลองแวะมาชมกันนะคะ
และนี่ก็คือ「ปลาไทสมปรารถนา」ค่ะ รู้จัก「ตุ๊กตาดารุมะ」ที่ต้องวาดตาลงไปเมื่อคำอธิษฐานเป็นจริงไหมคะ? อันนี้เป็นเวอร์ชั่นปลาไทค่ะ นักการเมืองกับทีมเบสบอลมักจะพกปลาไทนี้ไว้แล้วก็อธิษฐานขอพรกันค่ะ ฉันว่าจะลอง「ขอให้ได้เจอกับคนที่ดี」ดูบ้างดีไหมน้า
และก็มาทานอาหารเช้ากันตอน7โมงครึ่ง ข้าวสวยของจังหวัดChibaที่เพิ่งหุงเสร็จใหม่ๆทานกับปลาอาจิย่าง และกับข้าวอีกหลากหลายชนิด
ซุปมิโสะก็เลิศ!
ข้าวสวยที่หุงสำหรับแค่1คนทีละคนๆนี่อร่อยจริงๆนะ
อันนี้คือปลาไทดอง จะนำไปทำเป็นโอชาทสึเกะ(ข้าวต้มน้ำชา)ก็อร่อยนะคะ
ทานอาหารดีๆแต่เช้าจนท้องอิ่มเลย ทานเยอะไปแล้ว! หลังจากนั้นก็กลับไปพักผ่อนสบายๆที่ห้องและเช็คเอ๊าท์กันค่ะ ที่หน้าล็อบบี้ของที่นี่มีร้านขายของฝากด้วยนะ มีของฝาก เช่น ถ้วยชามและพัดแบบพื้นเมืองที่นักประพันธ์ของKamogowaเป็นผู้ทำขึ้นและขนมต่างๆก็มีจำหน่ายด้วยค่ะ
แล้วก็ให้ทางเรียวกังมาส่งที่สถานีรถไฟและขากลับนั่งรถไฟเข้าTokyoกันค่ะ สต๊าฟของเรียวกังแอบบอกมาว่า「ที่KamogowaมีOraga-don(ข้าวหน้ารวมของดีประจำจังหวัด)ขายด้วยนะคะ」ก็เลยลองแวะไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นNakamuraที่อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟดู
เดินไปสบายๆจากสถานีรถไฟประมาณ 10 นาทีเองค่ะ
Oraga-don(ข้าวหน้ารวมของดีประจำจังหวัด)ของร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดัดแปลงมาจากบ้านในสมัยก่อนก็คือข้าวหน้าอาหารทะเลที่ไฮโซขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย! เป็นข้าวหน้าอาหารทะเลที่นอกจากหอยเม่นกับไข่ปลาแซลมอนแล้วยังมีปลาประจำฤดูกาลอื่นๆอีก8-9ชนิดที่จับได้ในจังหวัดChibaอยู่เต็มชาม! พร้อมด้วยซุปมิโสะ, ของดองและเครื่องเคียงเล็กๆในราคาแค่ 1300เยน! คุ้มสุดๆไปเลย!
การมาเที่ยวKamogowaครั้งนี้ ได้พักผ่อนสบายๆที่ที่พักที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย เป็นที่พักที่สามารถพักผ่อนได้อย่างแท้จริงสำหรับผู้ใหญ่ ถ้านั่งรถบัสต่อไปอีกนิดนึงก็จะมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดฮิตKamogawa Sea Worldอยู่ด้วยค่ะ
http://www.kamogawa-seaworld.jp
แล้วก็ขนมญี่ปุ่นที่วางอยู่ในห้องพักเป็นของ「Kamata」ค่ะ ปกติขนมญี่ปุ่นจะเก็บได้ไม่ค่อยนานแต่ถ้าเป็น「ไทเซมเบ้」ขนมเซมเบ้ชื่อดังของKamogowaแล้วล่ะก็จะเก็บได้นานเลยค่ะ เป็นขนมเซมเบ้น่ารักๆที่ทำเป็นรูปปลาไท เหมาะจะซื้อเป็นของฝากมากๆเลยค่ะ มีวางจำหน่ายระหว่างที่พักกับสถานีรถไฟนะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? กับการท่องเที่ยวสุดหรูที่ให้บริการอย่างดีกันจนถึงอาหารการกิน สามารถมาเพลิดเพลินกับทริป2วัน1คืนจากTokyoกันได้ที่นี่ค่ะ
