Blog

LOVE CHIBA
Staff Blog

ลองมาซื้อเป็นของฝากดูไหมคะ

ชาเขียวเป็นสินค้ายอดฮิตขนาดที่ชาวต่างชาติก็ยังชอบค่ะ ที่ร้านสะดวกซื้อเองก็มีหลายๆบริษัททำออกวางจำหน่ายด้วยค่ะ

ครั้งนี้จะมาเสนอชาเขียวที่บรรจุอยู่ในขวดแบบไวน์ค่ะ

ใช้เฉพาะใบชาที่ผ่านการเลือกเฟ้นอย่างพิถีพิถัน และผลิตด้วยวิธีเฉพาะ ดื่มแล้วจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหรูหราจนบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ
แน่นอนว่าสามารถจับคู่ดื่มกับอาหารได้ด้วยค่ะ

ที่นั่งโดยสารชั้นFirst classของสายการบินJal ได้ใส่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ในเมนูด้วยค่ะ หากอยากลองชิมดูก็สามารถไปลองได้ที่ร้านสาขาใหญ่ในรปปงงิค่ะ

มีผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในกล่องไม้ด้วย ลองซื้อไปเป็นของฝากจากญี่ปุ่นดูไหมคะ?

Royal Blue Tea
https://royalbluetea.com.sg

ไปสิงคโปร์มาค่ะ

ได้ไปออกบู๊ทที่อีเว้นท์ "NATAS2018" ที่จัดที่สิงคโปร์มาค่ะ

วันจริงได้ใช้บริการสนามบินของสิงคโปร์มาค่ะ สุดยอดแห่งความสะดวกสบายเลย ปกติเวลานั่งเครื่องบินจะสั่งอาหารบนเครื่องเป็นผลไม้แต่ครั้งนี้รับเป็นอาหารบนเครื่องตามปกติ เพราะว่าในรีวิวบนเว็ปไซต์มีคอมเม้นท์ที่บอกว่า『พึงพอใจ』เขียนอยู่ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

แล้วก็ปกติแทบจะไม่ดื่มเหล้าบนเครื่องเลย แต่ครั้งนี้งานค่อนข้างที่จะหนักมาก ก็เลยลองสั่งสิงคโปร์สลิงมาดื่มนานๆทีค่ะ

ส่วนโรงแรมก็จองจาก booking.com เหมือนทุกครั้ง ได้จอง โรงแรมCapri by Fraser Changi City,Singaporeที่สามารถเดินไปExpoซึ่งเป็นสถานที่จัดงานได้เลยไว้

ภายในห้องมีห้องครัวเล็กๆให้ และในแต่ชั้นก็มีเครื่องซักผ้าให้บริการด้วย
และสามารถซื้อเหรียญที่จะเอามาหยอดน้ำยาซักผ้าสำหรับเครื่องซักผ้าได้จากที่หน้าล็อบบี้

และฟิตเนสก็เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ต้องออกไปทำงานแต่เช้าและตอนกลางคืนก็กลับดึกมากเลยค่อนข้างที่จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ

คราวนี้ได้ใช้บริการซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ในห้าง"Changi Ciy Point"ที่อยู่ข้างๆโรงแรม ได้ซื้อผลไม้และอาหารต่างๆจากที่นี่ซึ่งมีครบทุกอย่างเลยสะดวกสบายมากๆ

และที่สิงคโปร์ไม่มี Uber ค่ะ ต้องใช้ Grab แทน
ค่ารถไฟไม่แพงมากก็จริงแต่ถ้านั่งรถไฟจากโรงแรมไปใจกลางเมืองก็ต้องเสียเวลามากกว่านั่งรถถึง 2 เท่า ตรงนี้เป็นจุดเดียวที่ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่

และที่นี่คือที่ที่ได้ไปมาในช่วงFree timeที่มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

SONG FA BAK  KUH TEH
ถ้าพูดถึงสิงคโปร์ บะกุ๊ดเต๋ คือ 1 ในอาหารท้องถิ่นที่ห้ามพลาด และได้สั่งน้ำมะนาวเย็นที่มีรสเปรี้ยวจัดมาด้วย จากสถานี Clarke Quay ข้ามถนนไปก็เจอเลยค่ะ และต้องชำระเงินตอนที่อาหารมาเสิร์ฟบนโต๊ะเลย และอาหารที่สั่งหลังจากนั้นก็ต้องจ่ายทุกครั้งที่อาหารมาเสิร์ฟ

และอันนี้ก็อร่อยเหมือนกันค่ะ

OLD TEA HUT
ที่ญี่ปุ่นว่าปีนี้อากาศร้อนมากเป็นพิเศษแล้วก็จริง สิงคโปร์ก็ร้อนไม่ต่างกันเลย!
เลยทำให้รู้สึกว่าเครื่องดื่มเย็นๆจะอร่อยขึ้นมามากกว่าปกติ ในรูปเป็นชาที่ใส่น้ำผึ้งค่ะ อร่อยมาก!

เพราะเป็นการไปทำงานที่ต่างประเทศก็เลยไม่ค่อยมีเวลาได้ท่องเที่ยวแบบสบายๆเท่าไหร่ คราวหน้าถ้ามาอีกก็อยากเที่ยวแบบสบายๆมากกว่านี้ค่ะ

NEXT Travel Fair

ราเมงประจำท้องถิ่น~ราเมงแบบทาเคะโอกะ~

ที่ชิบะมีราเมงท้องถิ่นอยู่หลายร้านก็จริงแต่หนึ่งในนั้นมีร้าน "Umenoya" ที่เป็นร้านราเมงสไตล์ทาเคะโอกะ ที่ถือเป็นจุดก่อเกิดตำนานของราเมงชนิดนี้ในอำเภอ Futtsuจ.ชิบะค่ะ

ร้าน Umenoyaตั้งอยู่ที่หัวมุมของแนวบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง เป็นร้านราเมงประจำเมืองที่ได้รับความรักจากผู้คนในท้องถิ่นที่มองเพียงแว๊บเดียวอาจจะไม่รู้ว่าเป็นร้านอะไร และยังค่อนข้างจากสถานีรถไฟพอสมควรแนะนำให้ขับรถไปดีที่สุดค่ะ (มีที่จอดรถอยู่ใกล้ๆกับร้าน)

และที่ร้านจะมีคนแน่นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะสุดสัปดาห์บางทีก็มีคนมาเข้าคิวรอตั้งแต่ร้านเปิดเลยทีเดียวค่ะ ถ้าจะไปให้เตรียมใจและเผื่อเวลาไปรอไว้เลยจะดีกว่า

ราเมง เป็นซุปที่ใส่น้ำร้อนลงไปตัดกับน้ำที่ตุ๋นหมูชาชูเอาไว้เท่านั้น ส่วนเส้นจะไม่ใช่เส้นสดแต่จะเป็นเส้นที่อบแห้งมา รสชาติเข้มข้นและมีหมูชาชูขนาดใหญ่ยักษ์ใส่อยู่เต็มชาม เป็นราเมงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สืบต่อกันมากว่า60ปีแล้ว

ราเมงซุปสีดำที่มาเสิร์ฟที่โต๊ะ ถึงจะสั่งขนาดธรรมดาไปก็ยังใส่ทั้งเส้นและหมูมาให้เต็มชาม อย่าลืมท็อปปิ้งด้วยหัวหอมใหญ่ด้านบนด้วยนะคะ ความเค็มของโชยุและชาชูที่ปริมาณจุใจแบบนี้หาทานที่อื่นไม่ได้อีกแล้วค่ะ ถือเป็นอาหารClass Bของชิบะจริงๆค่ะ

ร้านนี้ถ้าเทียบกับร้านอื่นจะมีช่วงเวลาให้บริการนานหน่อยค่ะ และไม่ได้เปิดแค่ช่วงกลางวันเท่านั้น ถ้าหากจะไปก็ลองหลีกเลี่ยงช่วงกลางวันที่คนจะแน่นที่สุดและลองมาตอนเย็นหลังจากเที่ยวที่สุดท้ายแล้วก็ดีค่ะ

Umenoya
Chiba Province, Futtsu City, Takeoka 401

และจากMother Farmมาขับรถมาแค่ 17 นาทีเท่านั้นค่ะ และยังอยู่ใกล้ๆกับร้านปลาอาจิทอดได้แนะนำไปในคราวที่แล้วด้วยนะคะ!

ข้อมูลที่ลงในเว็ปไซต์เป็นข้อมูลพื้นฐานที่รวบรวมเอาไว้ ณ ช่วงที่ทำการรวบรวมข้อมูล ดังนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ปลาอาจิทองคำทอด!

วันก่อนเพิ่งจะได้เห็นท้องฟ้าแจ่มใสเป็นครั้งแรกหลังจากที่พายุเข้าญี่ปุ่นติดๆ กัน 2 อาทิตย์เลยค่ะ

 

ก็เลยได้ไปโรงกลั่นสาเกญี่ปุ่นWakura Shuzo(和蔵酒造) ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีKazusa-Minato(上総湊)ของจังหวัดชิบะนิดหน่อยมาค่ะ ทางร้านจะเริ่มโปรเจคสาเกญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป จึงมาทักทายล่วงหน้าค่ะ และได้ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านที่เจ้าของโรงกลั่นเป็นผู้แนะนำมาให้ค่ะ

ชื่อร้าน “Sakanaya no Isoryo Marutoshi(魚屋の磯料理まるとし)” จะอยู่ใกล้กลับสถานีTakeoka(竹岡)มากกว่า ซึ่งมีร้าน “Takeoka Ramen” ที่ชาวประมงจังหวัดชิบะรักมากตั้งอยู่

ที่จังหวัดชิบะ สามารถตกปลา “อาจิทองคำ” ที่มีสีทองได้ และเป็นที่เลื่องลือขนาดมีคนที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาเพื่อกินปลาอาจิทองคำนี้โดยเฉพาะด้วย เหตุผลก็คือปลาอาจิของที่นี่จะมีไขมันที่สวยกว่าที่อื่น เนื่องจากมันอาศัยอยู่ในอาณาเขตที่มีอาหารที่อุดมสมบูรณ์กว่าปลาอาจิทั่วไป จึงทำให้มีรสชาติที่อร่อยมากนั่นเอง!

 

ฉันได้สั่งเซ็ตที่มีปลาอาจิทอดมา และนอกจากนั้นยังมีปลาซาชิมิอีก 5 ชนิดอยู่ในเซ็ตด้วย ราคา 1800 เยน ปลาอาจิกรอบและเคี้ยวเพลินมาก! และซาชิมิก็สดและอร่อยมากๆ ด้วยค่ะ

สมกับเป็นพื้นที่ที่รอบล้อมไปด้วยทะเล ทำให้สามารถทานปลาสดๆ ได้

การที่ได้รับประทานอาหารท้องถิ่นที่อร่อยขนาดนี้ถือเป็นความสนุกของการท่องเที่ยวสินะ
อยากให้ทุกคนได้มาลองกันนะคะ!

ข้อมูลที่ลงในเว็ปไซต์เป็นข้อมูลพื้นฐานที่รวบรวมเอาไว้ ณ ช่วงที่ทำการรวบรวมข้อมูล ดังนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ไปดูการถ่ายทำนอกสถานที่ของรายการท่องเที่ยวจังหวัดชิบะจากประเทศฮ่องกงมาค่ะ

หลังจากไปรับทีมงานรายการที่จะมาถึงที่สนามบินนาริตะกันที่บริเวณประตูผู้โดยสารขาเข้าแล้ว ก็ได้มีการถ่ายทำรายการท่องเที่ยว ของ TVB กันทั้งหมด 7 วัน 6 คืนเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

ในครั้งนี้จะมีทีมงานถ่ายทำจากฮ่องกงรวมถึงพิธีกรรายการทั้งหมด4 คนรวมล่ามแปลภาษาที่ทางเราเตรียมไว้2 คนด้วยเป็น6 คนค่ะ (คนในภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะคะ)

ช่วงก่อนที่ทางทีมงานจะเดินทางมาญี่ปุ่นนั้นได้มีการประสานงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกำหนดการต่างๆบอกตรงๆเลยค่ะว่าค่อนข้างยุ่งยากวุ่นวายพอสมควรทำให้มีหลายครั้งเลยล่ะที่คิดว่าอยากจะล้มเลิกโปรเจคนี้ไปซะ

แต่ว่าพอได้ใช้ชีวิตและได้รับประทานอาหารรวมกับเหล่าทีมงานจากฮ่องกงกันหลายๆวันเข้าก็ได้สัมผัสถึงมุมมองของการท่องเที่ยวของชิบะที่ถ่ายทอดออกมาจากสายตาของพวกเขาทำให้ตัวฉันเองได้ค้นพบกับสิ่งใหม่ๆด้วยเช่นเดียวกันค่ะการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นมองและสเน่ห์ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ชาวต่างชาติมองมีความแตกต่างกันเล็กน้อยทำให้แน่ใจได้ว่าเราก็สามารถที่จะเปลี่ยนมุมมองได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากพวกเขาค่ะและตัวฉันเองไม่เฉพาะแค่เรื่องงานเท่านั้นฉันยังมีความสนใจเกี่ยวกับการเรียนรู้วิธีคิดและการดำเนินชีวิตของผู้คนแต่ละประเทศเป็นอย่างมากเราได้คุยกันหลายๆเรื่องรวมถึงความยากในการจัดสมดุลของการใช้ชีวิตและการทำงานของWorking Women ซึ่งที่ฮ่องกงเองก็เหมือนกันกับที่ญี่ปุ่น

ยิ่งโลกเรามีการโลกาภิวัฒน์มากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งน่าสนใจตรงที่ความแตกต่างในความยากลำบากของผู้หญิงก็ได้ลดลงเช่นเดียวกันถึงจะยังมีความต่างทางด้านภาษาก็ตาม
พอได้ไปส่งทีมงานให้กับประเทศอย่างปลอดภัยก็รู้สึกขึ้นมาอย่างมากเลยว่าโชคดีที่ได้ร่วมงานกันและต้องขอขอบคุณทางญี่ปุ่นด้วยที่ให้ความร่วมมือทำให้การถ่ายทำเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดีและรายการจะออกอากาศเดือนธันวาคมนี้ตื่นเต้นมากว่ารายการจะออกมารูปแบบไหนกันนะ

ไปร่วมอีเว้นท์งานท่องเที่ยวที่ไทยมาค่ะ

ปีนี้ LOVE CHIBA ก็ได้ไปออกบู๊ท PR การท่องเที่ยวจังหวัดชิบะที่งาน Visit Japan F.I.T. Travel Fair 2017มาค่ะ

รอบนี้ก่อนที่จะไปไทยเราได้ไปPRเหล้าญี่ปุ่นของจังหวัดชิบะ Nabedanaและโรงกลั่นสุราTokunในงานSakelismที่ประเทศไต้หวันเสร็จแล้วก็ตรงมากรุงเทพเลยค่ะ จึงค่อนข้างเป็นทริปมาทำงานที่ยาวนานทีเดียว



มาเมืองไทยก็หลายครั้งแล้วแต่ก็ยังมีกำแพงด้านภาษาอยู่ ทำให้ไม่ชินกับการนั่งแท็กซี่ของไทยซักทีค่ะ คราวนี้เลยเลือกใช้บริการมารับที่สนามบินของโรงแรมแทน ถึงราคาจะค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกันแล้วแต่ก็เลือกความอุ่นใจแทนค่ะ ราคาจากสนามบินสุวรรณภูมิถึงโรงแรมประมาณ 6000 เยน และโรงแรมรอบนี้มีห้องครัวเล็กๆให้ด้วย ช่วยได้มากกับการต้องมาทำงานนานๆ แถมห้องในโรงแรมของกรุงเทพก็ราคาไม่แพงและห้องยังกว้างมากๆอีกด้วย บริการซักรีดแบบต้องเสียค่าใช้จ่ายก็มีให้ด้วย

 

นี่คือที่พักในรอบนี้ค่ะ
บ้านเค บริหารโดย บลิสตัน

และงานท่องเที่ยวทั้งหมด 3 วัน ปีที่แล้วมีผู้เข้างานทั้งหมด 6 หมื่นคน ครั้งนี้ก็มีคนเข้าร่วมมากมายเหมือนเคย และที่สยามพารากอนมีแต่ร้านหรูๆอยู่เต็มไปหมด ไฮโซก็เพียบ และกำลังการอุปโภคบริโภคของนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็มีสูงมากเช่นกัน และรายได้ของชาวไทยก็ไม่ค่อยต่างจากชาวญี่ปุ่นมากเท่าไหร่แล้ว (*อ้างอิงจากผลของแบบสอบถาม)

เอาล่ะ ถึงจะพูดว่าเป็นการมาทำงานก็จริง แต่ก็ได้รับประทานอาหารอร่อยๆที่ทางสต๊าฟคนไทยแนะนำมาให้เพียบเลยค่ะ

ตามร้านอาหารก็มีคนที่พูดภาษาอังกฤษได้อยู่เต็มไปหมด แถมยังเฟรนด์ลี่มากๆ และราคาถูกด้วย!
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกถึงมีเยอะมาก

เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเดี๋ยวจะไปไทยอีกนะคะ รอบหน้าจะมีไปเจรจาธุรกิจที่เชียงใหม่ด้วย เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเชียงใหม่ค่ะ! ตื่นเต้นมากเลย!

ได้ลองทานคัพราเมงรสชาเขียวกับรสถั่วนัตโตะดูแล้วค่ะ

วันก่อนลองซื้อคัพราเมง 2 แบบที่มีคนโพสถึงในเน็ทเยอะมากๆมาลองดูค่ะ 
อันแรกเป็นยากิโซบะรสซอสกับถั่วนัตโตะของPeyoung เป็นคัพราเมงที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบมากๆค่ะ 
เป็นเส้นแบบไม่มีน้ำซุป เรียกว่ายากิโซบะค่ะ แล้วในยากิโซบะนั้นก็มี "ถั่วนัตโตะ" ที่คนต่างชาติไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่ใส่ลงไปด้วย แน่นอนว่าคนญี่ปุ่นที่แค่เห็นคำว่านัตโตะบนซองก็หมดอารมณ์จะซื้อก็มีอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ 

และอันที่สองเป็นบะหมี่ถ้วยเส้นชาเขียวรสซีฟู๊ด ตัวนี้น่าสนใจมากๆค่ะ เหมือนเวลาไปไทยแล้วมีรสต้มยำกุ้งที่เป็นรสชาติเฉพาะของประเทศวางขายอยู่เลย ตัวแพคเกจก็ดีไซน์ออกมาแบบญี่ปุ่นมากๆ 

ทั้ง 2 แบบสามารถหาซื้อได้ง่ายๆตามร้านสะดวกซื้อค่ะ 

 

แต่ว่าตัวยากิโซบะจะมีวิธีทำแตกต่างจากบะหมี่ถ้วยทั่วไปที่แค่ใส่น้ำร้อนแล้วรอเล็กน้อย ตัวยากิโซบะจะมีขั้นตอนในการทำที่ซับซ้อนกว่านิดหน่อยค่ะ ก่อนอื่นต้องเอาถุงซอสออกมาก่อน จากนั้นก็เทน้ำร้อนลงไป รอ 3 นาทีแล้วเทน้ำร้อนออก แล้วราดซอสไปท้ายสุดก็เป็นอันเสร็จกระบวนการ! 

ขอเขียนไว้ตรงนี้อีกซักรอบหนึ่งนะคะ คนญี่ปุ่นเองไม่ใช่ว่าจะดื่มชาเขียวทุกวันและไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบถั่วนัตโตะนะคะ เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ 2 อย่างนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ 「ไม่ธรรมดา」สำหรับคนญี่ปุ่นเองเช่นเดียวกันค่ะ 

ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นกับการรอที่จะได้ทานกันจริงๆซักที 


ก่อนอื่น ขอลองบะหมี่ถ้วยเส้นชาเขียวรสซีฟู๊ดก่อน 
รู้สึกไม่ได้รสของชาเขียวเลย รู้สึกเหมือนเป็นอาหารสีเขียวรสซีฟู๊ดมากกว่า 
เพราะคิดแบบนี้เลยทำให้สามารถทานต่อจนหมดได้ค่ะ 

และยากิโซบะรสซอสกับถั่วนัตโตะของPeyoung 
ความรู้สึกตอนที่ยืดเส้นที่ทำให้เหมือนกับมีถั่วนัตโตะอยู่ในเส้นแล้วรู้สึกได้ถึง「ความลื่น」นั้นเป็นอะไรที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ยากมาก... 

ฝั่งผู้ผลิตได้อธิบายตัวผลิตภัณฑ์ไว้ว่าในจะมีถั่วนัตโตะแบบแห้งใส่อยู่ด้วยซึ่งเป็นตัว「เพิ่มความอร่อย」แต่พอได้ทานแล้วไม่รู้สึกว่ากำลังทานถั่วนัตโตะอยู่เลยรู้สึกเหมือนทานขนมกินเล่นมากกว่า แต่ตัวเส้นก็ลื่นๆดีนะ 

ในส่วนของความรู้สึกหลังจากที่ได้ทานทั้ง 2 อย่างไปแล้วนั้น คิดว่าคงจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้วล่ะค่ะ 
แต่ถ้าทุกคนได้มาเที่ยวญี่ปุ่น ไหนๆก็ไหนๆแล้วลองซื้อคัพราเมงฮาๆแบบนี้ไปเป็นของฝากก็อาจจะดีเหมือนกันนะคะ